จากกระดาษไขสู่จักรวาลดิจิทัล : ประวัติศาสตร์ AutoCAD ที่เปลี่ยนโลกการออกแบบไปตลอดกาล  

AutoCAD history

หากย้อนกลับไปเมื่อ 40 กว่าปีก่อน ภาพของสำนักงานสถาปนิกหรือวิศวกรจะเต็มไปด้วยโต๊ะเขียนแบบขนาดใหญ่ กลิ่นหมึก กระดาษไข และไม้ที (T-Square) แต่การมาถึงของซอฟต์แวร์ตัวหนึ่งได้เปลี่ยนภาพเหล่านั้นไปอย่างสิ้นเชิง ซอฟต์แวร์นั้นคือ AutoCAD นี่คือเรื่องราวความเป็นมาของเครื่องมือที่เป็นเหมือน “ปากกาและกระดาษ” ของยุคดิจิทัลครับ


1. จุดเริ่มต้น: กำเนิดจากวิสัยทัศน์ (1982)  

ในยุคที่คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ยังเป็นเครื่อง Mainframe ขนาดมหึมาและมีราคาแพงมหาศาล การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ (CAD) เป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนทั่วไปแต่ในปี 1982 ชายที่ชื่อ John Walker และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 12 คน ได้รวมตัวกันตั้งบริษัทชื่อ Autodesk ขึ้นมาด้วยเงินทุนเพียง 59,000 ดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างซอฟต์แวร์ที่ทำงานได้บน “Microcomputer” (หรือ PC ในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมากในยุคนั้น

John Walkers ,AutoDesk
  • The First Launch: AutoCAD เวอร์ชัน 1.0 เปิดตัวครั้งแรกที่งาน COMDEX ในเมืองลาสเวกัส เมื่อเดือนธันวาคม 1982
  • ความสำเร็จทันที: มันกลายเป็นโปรแกรม CAD ตัวแรกของโลกที่รันบน PC ได้ ทำให้สำนักงานออกแบบขนาดเล็กสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ จากเดิมที่ต้องใช้เครื่องราคาหลักแสนดอลลาร์
PTCAD compare autocad lite

2. ยุคบุกเบิกและสร้างมาตรฐาน (1980s – 1990s)  

ในช่วงทศวรรษแรก AutoCAD พัฒนาอย่างก้าวกระโดด และเริ่มสร้างนามสกุลไฟล์ .DWG ให้กลายเป็นมาตรฐานของโลกการออกแบบ

AutoCad support all *.dwg files
  • AutoCAD R12 (1992): เป็นเวอร์ชันในตำนานที่เสถียรและได้รับความนิยมสูงสุดในยุค DOS หน้าตาเมนูเริ่มใช้งานง่ายขึ้น
  • AutoCAD R14 (1997): ถือเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” เพราะเป็นการทิ้งระบบ DOS เข้าสู่ Windows อย่างเต็มตัว มีความเสถียรสูงมาก จนหลายคนยังคงใช้เวอร์ชันนี้ต่อมาอีกหลายปีแม้จะมีเวอร์ชันใหม่ออกมาแล้วก็ตาม

3. ยุคแห่ง 3D และอินเทอร์เน็ต (2000s)

AutoCAD 3D year 2000

เมื่อเข้าสู่ปี 2000 โลกต้องการอะไรที่มากกว่าแค่เส้น 2 มิติ AutoCAD จึงเริ่มปฏิวัติเครื่องมืออีกครั้ง

  • AutoCAD 2000: เพิ่มความสามารถในการเปิดหลายไฟล์พร้อมกัน (Multiple Document Interface) และปรับปรุงระบบ 3D ให้ดีขึ้น
  • AutoCAD 2007: เป็นยุคที่ฟีเจอร์ 3D Modeling แข็งแกร่งขึ้นมาก สามารถเรนเดอร์ภาพเสมือนจริงได้ในระดับที่น่าพอใจ
  • Parametric Design (2010): เริ่มใส่ฟีเจอร์ที่ให้วัตถุมีความสัมพันธ์กัน (เช่น ยืดเส้นนี้ อีกเส้นต้องขยับตาม) ซึ่งเป็นพื้นฐานของเทคโนโลยี BIM ในปัจจุบัน

4. ปัจจุบันและอนาคต : Anywhere & AI

AutoCAD can work anywhere and AI

ในยุคปัจจุบัน AutoCAD ไม่ได้อยู่แค่ในคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอีกต่อไป

  • AutoCAD Web & Mobile: วิศวกรสามารถเปิดแบบดูผ่าน iPad ที่หน้างาน หรือแก้ไขงานผ่าน Web Browser โดยไม่ต้องลงโปรแกรม
  • Specialized Toolsets: แตกแขนงเป็นเวอร์ชันเฉพาะทาง เช่น AutoCAD Electrical, AutoCAD Mechanical เพื่อความรวดเร็ว
  • AI & Automation: เวอร์ชันล่าสุดเริ่มนำ AI เข้ามาช่วย เช่น การนับจำนวนบล็อกอัตโนมัติ (Count) หรือแนะนำคำสั่งที่เหมาะสม (My Insights)
MEP autocad PTCAD Banner

บทสรุป: มากกว่าแค่โปรแกรมเขียนแบบ  

AutoCAD ไม่ได้เป็นเพียงแค่ซอฟต์แวร์ แต่เป็น “ผู้ปฏิวัติอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผลิต” มันช่วยลดความผิดพลาดจากการเขียนมือ ประหยัดเวลาการแก้ไขแบบ และทำให้จินตนาการที่ซับซ้อนกลายเป็นโครงสร้างที่สร้างได้จริงแม้ปัจจุบันจะมีคู่แข่งหรือโปรแกรม 3D/BIM (เช่น Revit) เข้ามาแบ่งตลาดไปบ้าง แต่ AutoCAD ก็ยังคงยืนหยัดเป็น “ครูคนแรก” และเครื่องมือสามัญประจำเครื่องของนักออกแบบทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้

Line shop ptcad amido
risk of use no copyright software cad

SHARE THIS